22
ปรับนิดเดียว ลูกเรียนรู้ไว! เคล็ดลับสอนภาษาอังกฤษให้เหมาะกับเจ้าตัวเล็ก

ปรับนิดเดียว ลูกเรียนรู้ไว! เคล็ดลับสอนภาษาอังกฤษให้เหมาะกับเจ้าตัวเล็ก

โพสต์เมื่อวันที่ : May 7, 2025

 

เทคนิคที่ใช้ได้กับลูกคนอื่น อาจไม่เวิร์กกับลูกเรา เพราะเด็กแต่ละคนมีสไตล์การเรียนรู้ต่างกัน มารู้จักวิธีสอนที่เหมาะกับลูกที่สุดกัน

 

ทำอย่างไร เมื่อเทคนิคที่รู้มา ใช้กับลูกไม่ได้ผล ? ปรับตัวตอนนี้ยังทันไหม ? ชวนมาค้นหาวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับลูกของคุณ บทความนี้อยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาเรียนรู้และทำความเข้าใจ “สไตล์การเรียนรู้” ของลูก เพื่อสอนภาษาอังกฤษได้อย่างตรงใจค่ะ

 

การสอนภาษาอังกฤษ (หรือทักษะอื่น ๆ) ให้ได้ผลกับลูก อาจไม่ใช่แค่เรื่องของการทำให้ดูบ่อย ๆ หรือท่องคำศัพท์ทุกวัน แต่คือการเข้าใจว่า ลูกของเราเรียนรู้ได้ดีที่สุดในรูปแบบไหน จะช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพราะเด็กแต่ละคนมี “สไตล์การเรียนรู้” ที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยหลัก ๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่

 

 

● บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกพูด “ไทยคำ - อังกฤษคำ” แก้อย่างไร ?

 

 

เด็ก 3 สไตล์การเรียนรู้ที่ต่างกัน

 

➊. เด็กที่เรียนรู้ผ่านการฟัง (Auditory Learner) : เด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มจำสิ่งที่ได้ยินได้ดี และเรียนรู้ภาษาใหม่ได้ง่ายผ่านเสียงพูด จังหวะ และเสียงเพลง

วิธีสอนภาษาอังกฤษให้ Auditory Learner

  • พูดกับลูกบ่อย ๆ ในสถานการณ์จริง เช่น “Let’s go outside!” หรือ “Do you want some milk?”
  • ใช้เพลงเด็กภาษาอังกฤษ เช่น “Twinkle Twinkle Little Star” หรือ “Baby Shark”
  • เล่านิทานเสียงดัง ๆ พร้อมเปลี่ยนเสียงตัวละครให้น่าสนใจ

 

 

➋. เด็กที่เรียนรู้ผ่านการมองเห็น (Visual Learner) : เด็กกลุ่มนี้เข้าใจและจดจำภาษาอังกฤษได้ดีที่สุดผ่านรูปภาพ สีสัน และสัญลักษณ์ต่าง ๆ

วิธีสอนภาษาอังกฤษให้ Visual Learner

  • ใช้แฟลชการ์ด หรือภาพประกอบเชื่อมโยงคำศัพท์กับรูปภาพ
  • อ่านนิทานที่มีภาพประกอบชัดเจน และชี้คำศัพท์ขณะอ่าน เช่น “Look, it’s a cat!”
  • ใช้ภาษากายประกอบ เช่น ชี้วัตถุจริงขณะพูด หรือทำท่าทางตามคำศัพท์ (jump, run, clap)

 

 

➌. เด็กที่เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Kinesthetic Learner) : เด็กกลุ่มนี้เรียนรู้ได้ดีผ่านการเคลื่อนไหวและสัมผัส การได้ลงมือทำจะช่วยให้เขาเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น

วิธีสอนภาษาอังกฤษให้ Kinesthetic Learner

  • เล่นบทบาทสมมติ (Role Play) เช่น เป็นคุณหมอ พนักงานขาย หรือซูเปอร์ฮีโร่
  • ใช้ของเล่นและกิจกรรม เช่น บล็อกตัวอักษร ตัดกระดาษ ทำงานประดิษฐ์ พร้อมพูดภาษาอังกฤษประกอบ
  • สำรวจนอกบ้าน ใช้ภาษาอังกฤษพูดถึงสิ่งที่เห็น เช่น “Look at the butterfly!” หรือ “Wow, a big tree!”

 

 

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าลูกเรียนรู้แบบไหน ? ลองสังเกตดูว่าแบบไหนทำให้เขาสนุก ไม่เบื่อง่าย มีปฏิกิริยาโต้ตอบ และจดจำสิ่งที่ทำร่วมกันได้ง่าย นอกจากนี้ “ความสนใจ” ก็เป็นกุญแจสำคัญ เช่น เด็กที่ชอบไดโนเสาร์ อาจเรียนรู้ได้ดีขึ้นหากใช้หนังสือเกี่ยวกับไดโนเสาร์ เด็กที่ชอบรถ อาจสนุกกับเกมจับคู่คำศัพท์เกี่ยวกับยานพาหนะ

 

 

ถ้าเราเข้าใจ สไตล์การเรียนรู้ และใช้ ความสนใจของลูก มาประกอบจะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ซึมซับได้เป็นธรรมชาติ และไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ ขอให้คุณพ่อคุณแม่สนุกกับการสังเกต และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับเจ้าตัวเล็กนะคะ

 

ติดตามข่าวสารและกิจกรรม Thai PBS Kids ได้ทาง Website | Facebook | Youtube | LINE Official