10 สาเหตุลูกร้องไห้งอแง วิธีสังเกตและวิธีการแก้ คุณพ่อแม่มือใหม่ต้องรู้

เด็กยังพูดไม่ได้การร้องไห้ คือ การสื่อสารของลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้สาเหตุก่อนว่าลูกร้องไห้จากอะไร จะได้ช่วยลูกได้ถูกนะคะ

• 1.ร้องเพราะหิว ลูกจะร้องไห้สั้น ๆ ร่วมกับหันหน้าหาหัวนม ดูดปากดูดมือ การให้ลูกกินนม ให้ลูกกินนม ทุก 2 - 3 ชั่วโมงในทารกแรกเกิด ซึ่งถ้าลูกหิวมากก็จะร้องไห้โวยวาย ดังนั้นคุณแม่อย่าปล่อยลูกหิวมากจนเกินไปนะคะ 

• 2.ร้องไห้เพราะท้องอืด มีลมในท้อง ปวดท้อง : มักพบหลังกินนมหรือระหว่างกินนม ลูกจะมีอาการร้องไห้งอแงร่วมกับแอ่นตัว บิดตัว ถีบขา กำมือแน่น จับลูกเรอระหว่างกินนมและหลังกินนม ทามหาหิงค์ ถ้าเป็นคุณแม่ที่ให้นมลูกหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ลูกมีลมในท้อง เช่นประเภทถั่ว ถ้าลูกกินนมผงก็เลือกเป็นสูตรที่ย่อยง่าย

• 3.ร้องไห้โคลิก สาเหตุยังไม่แน่ชัด มักพบร้องไห้รุนแรง ร้องไห้เสียงแหลม ร้องไห้เวลาเดิม ๆ โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำเวลาโพล้เพล้ ปลอบโอ๋อย่างไรก็ไม่ยอมหยุด ไม่พบอาการอาเจียนหรือถ่ายท้องเสียหรือไข้ มักพบกับลูกอายุประมาณปลาย ๆ เดือนที่ 1 - 3 เดือน จะร้องไห้เวลาเดิม ๆ โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ วันละ 3 ชั่วโมง ร้องลักษณะแบบนี้ 3 วันต่อสัปดาห์ และการร้องให้โคลิกนี้จะดีขึ้น เมื่ออายุ 3 เดือน บางทีอาจเชื่อมโยงถึงเรื่องท้องอืดหรือปวดท้องของลูกได้ 

แนะ 3 ท่าปราบโคลิก

1. อุ้มลูกกอดอกเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย โยกตัวลูกไปมา บางคนอาจมีอาการท้องอืด ท่านี้จะช่วยให้ลำไส้ถูกกดเบียดน้อยลง ลูกก็จะสงบลง

2. อุ้มท่าเซิ้งกระติบ อุ้มลูกกกระชับแนบอก แม่ทำท่ายกเข่าขึ้น เหมือนท่าเซิ้ง ลูกจะรู้สึกมีการเคลื่อนไหว คล้าย ๆ กับลูกอยู่ในท้องแม่ ลูกก็จะสงบลง

3. อุ้มท่าซุปเปอร์แมน อุ้มลูกกกระชับแนบอกอุ้มลูกกกระชับแนบอก มือ 2 ข้างของแม่ประสานใต้ท้องลูก เคลื่อนตัวไปมา ลูกจะรู้สึกมีการเคลื่อนไหว คล้าย ๆ กับลูกอยู่ในท้องแม่ ลูกก็จะสงบลง ผลัดเปลี่ยนกับคนในครอบครัวมาช่วยดูแลลูก ก็จะบรรเทาความเครียดคุณแม่ลงได้ ทามหาหิงค์ หรือป้อนยาขับลมก็พอช่วยได้ 

4.ร้องไห้เพราะง่วงนอน ลูกจะร้องไห้ร่วมกับใช้มือขยี้หู ขยี้ตา เมินหน้าหนีไม่เล่น สังเกตพบว่าลูกคิ้วแดง ไม่เล่นเมินหน้านี้ บ่งบอกว่าลูกเริ่มง่วงนอนแล้ว ให้รีบป้อนนมและกล่อมพาลูกนอน เพราะหากยังให้ลูกฝืนเล่นต่อไป อาจจะเกิดอาการ Overtired Baby คือง่วงนอนมากจนคุมตัวเองไม่อยู่ 

5.ร้องไห้จากการเจ็บเหงือกฟันจะขึ้น เจอได้ที่อายุ 4 - 8 เดือน พบได้ช้าเร็วแตกต่างกัน มักพบอาการน้ำลายไหล ดูเหงือกล่างจะเห็นตุ่มนูนสีขาวซีด ร่วมกับมีความอยากกัดนั่นนี่ เช่น กัดเต้าแม่ กัดมือ กัดของเล่น กินนมน้อยลง มีไข้ตัวรุม ๆ ร้องไห้ ไม่สบาย นอน ๆ อยู่ก็ตื่นขึ้นมาร้องไห้ ให้ลูกกัดยางกัดแช่เย็น ทำผลไม้ใส่จุกยางแช่เย็นให้ลูกกัด หั่นแครอทแนวยาวแช่เย็นให้ลูกกัด นวดเหงือก มีใข้ก็ป้อนยาลดไข้ ถ้าลูกกินนมน้อยลง ก็พยายามให้ลูกกินนมบ่อย ๆ ถ้ามีใข้ร่วมกับเหงือกบวมแดง ร้องไห้งอแงหนักมาก พาลูกหาหมอฟัน 

6.ร้องไห้เพราะเปียกแฉะ จากปัสสาวะหรืออุจจาระ จะมีอาการถีบแข้ง ถีบขา ไม่สุขสบายตัว เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปผืนใหม่ให้ลูก ลูกก็จะสงบลง อารมณ์ดี



7.ร้องไห้เพราะเหงา เรียกร้องความสนใจ กลัวการพรากจาก มักพบหลังตื่นนอนขึ้นมาแล้วไม่เจอใครก็จะร้องไห้ เข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ปลอบโอ๋ลูก ลูกก็จะสงบลง

8.ร้องไห้ไม่สบาย ป่วย เช่น มีไข้ อาเจียน ถ่ายเหลว กระสับกระส่าย กินนมน้อยลง ร้องไห้งอแง กรณีนี้พาลูกหาหมอ

9.ร้องไห้เพราะเล่นเหนื่อยมากจนเกินไป ถูกกระตุ้นมากเกินไป หยุดการเล่น และพาลูกออกจากสถาณการณ์ หรืแสถานที่แห่งนั้น ปลอบโอ๋ให้หยุด

10.ร้องไห้จากสิ่งแวดล้อม เช่น ร้อน หนาว แสง เสียง หรือสัตว์กัด จู่ ๆ ก็ร้องจ๊ากขึ้นมาเลย ตรวจสอบร่างกายลูกดูก่อนว่าเป็นเพราะอะไร และแก้ไขปัญหาได้ถูกจุด ถ้าร้อนก็คลายผ้า ถ้าหนาวก็ห่มผ้า แสงจ้าก็ปิดม่าน

นี่ก็เป็น 10 สาเหตุลูกร้องไห้งอแง เมื่อแม่รู้แล้วก็จะสังเกตได้ว่าลูกร้องเพราะอะไร จะได้ตอบสนองลูกได้ถูก และแม่เองก็จะไม่ต้องเครียดกับการร้องไห้ของลูกนะคะ