
Digital Citizenship : 8 ทักษะพลเมืองดิจิทัล พลังสำคัญที่เด็กไทยยุคใหม่ต้องมี
ในยุคที่โลกเสมือนและโลกจริงผสานกัน เด็กไทยต้องมี 8 ทักษะพลเมืองดิจิทัล
บ้านสีขาวดูสะอาดสะอ้านเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลาย ๆ คนปรารถนา เพราะมันดูเรียบร้อยสบายตาสบายใจ แต่หารู้ไม่ห้องสีขาวที่ว่างเปล่านั้นส่งผลต่อพัฒนาการของลูก ๆ มากที่สุด
ผลการทดลองของศาสตราจารย์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งชื่อ บรูเนอร์ ชี้ให้เห็นว่าเด็กที่มีสิ่งกระตุ้นจากห้องที่มีสีสันกับไม่มีสี การพัฒนาทางสติปัญญาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เด็กที่ถูกเลี้ยงอยู่ในห้องว่างเปล่า จะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กที่มีสิ่งกระตุ้นถึง 3 เดือน (สติปัญญาของเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบนั้น เทียบเท่ากับพัฒนาการของเด็กในช่วง 4-17 ปี)
เมื่อผมได้ทราบถึงผลการวิจัยทดลองในครั้งนี้แล้ว ผมก็ต้องรีบหาทางทำอะไรสักอย่างกับห้องสีขาวล้วนนี้ทันที บ้านดูไม่เรียบร้อยไม่เป็นไรพัฒนาการทางสติปัญญาของลูกสำคัญกว่า ปกติผมกับลูกมักจะหากิจกรรมทำร่วมกันอยู่แล้ว ผมจึงมีไอเดียขึ้นมาไหน ๆ ผนังห้องก็ไม่ควรเป็นสีขาวโล่งแบบนี้เรามาทำผนังให้เป็นงานศิลปะกันเถอะ
ผมชวนลูกเดินทางออกไปซื้อสีสำหรับทาภายในมาทันที เลือกชนิดของสีที่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กเล็ก เมื่อได้สีแล้วผมและลูกจึงพากันวาดลวดลายบนกำแพง ฝ่ามือน้อย ๆ ของลูกค่อย ๆ จุ่มลงไปในถังสี แรก ๆ เขาอาจจะไม่ค่อยกล้าอยู่บ้างเพราะกลัวมือเลอะแต่ด้วยความอยากเล่นมีมากกว่า เขาจึงก้าวข้ามความกลัวในที่สุดมือก็เป็นสีเขียวเสียแล้ว ลูกหัวเราะไปทีชี้ให้ผมดูที่มือของเขาที ลูกลองเอามือเลอะ ๆ ของลูกไปป้ายบนผนังดูสิ ผมชักชวน
เด็กน้อยก็ทำตามจากผนังสีขาวตอนนี้มีลวดลายฝ่ามือสีเขียวของลูกเรียบร้อยครับ ลูกเริ่มสนุกจากเลอะสีแค่จุดเล็ก ๆ จุดเดียวตอนนี้กลายเป็นงานศิลปะใหญ่โตไปแล้ว เสื้อผ้าของผมกับลูกไม่ต้องพูดถึงหลังจากจบงานทิ้งลงถังขยะอย่างเดียวเขียวไปทั้งตัว เราสองคนชวนกันวาดรูปสัตว์ต่าง ๆ มากมายส่วนมากจะมีแต่ปลาเพราะลูกชอบปลามาก นี่ก็เป็นการกระตุ้นลูกด้วยสิ่งที่เขาชอบทางหนึ่ง ลูกสามารถที่จะจดจ่อกับสิ่งที่ชอบนั่งนิ่ง ๆ นาน ๆ ได้แล้วทำให้ลูกมีสมาธิเพิ่มขึ้น
ผมได้เห็นจินตนาการของลูกได้รับรู้ถึงความคิดของลูกผ่านทางศิลปะชิ้นนี้ ผมหวังว่าห้องแห่งนี้จะเป็นโลกของลูกโลกที่เขาอยากอยู่ โลกที่เขาบรรจงสร้างขึ้นมาด้วยสองมือน้อย ๆ ของเขาเอง นอกจากจะเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูกแล้ว ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้อีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่ครับ อย่าเสียดายผนังสีขาวเลย เราลองเอามาให้ลูกได้แสดงพลัง ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกกันเถอะครับ ลูกจะได้มีการพัฒนาการที่สมบูรณ์ เมื่อลูกโตขึ้นเขาก็จะไม่สนใจผนังนี้อีกต่อไป เขาอาจจะอยากอยู่อยากเที่ยวกับเพื่อนมากกว่าอยู่ในบ้าน แล้วถึงเวลานั้นคุณพ่อคุณแม่ค่อยมารีโนเวทผนังให้กลับมาเป็นสีขาวสะอาดตาก็ยังไม่สาย ตอนนี้เรามาทำเพื่อลูกกันดีกว่าครับ
:: อ้างอิง ::
หนังสือรอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว โดย มาซารุ อิบุกะ (ผู้ก่อตั้งบริษัท Sony)