232
ช่วยลูกเข้าใจและจัดการความรู้สึกตนเอง

ช่วยลูกเข้าใจและจัดการความรู้สึกตนเอง

โพสต์เมื่อวันที่ : May 20, 2020

 

พ่อแม่อยากให้ลูกเข้าใจตัวเอง และจัดการอารมณ์ตนเองให้ได้ ก็เพราะรู้ว่าในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์เชิงลบ ความสามารถในการคิดเพื่อแก้ปัญหาจะลดลง


ความกลัวจะทำให้เด็ก “หนี” ปัญหา หรือ “สู้กลับ” หรืออาจอยู่ในสภาพ “จำยอม” โดยไม่คิดอย่างรอบคอบก็เป็นได้ แต่เด็กจะเข้าใจตัวเองและจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย หากสถานการณ์นั้นพ่อแม่มีอารมณ์โกรธ และลงโทษลูกด้วยความรุนแรง

 

จำเด็กชายบีในตอนที่ 3 (คลิกเพื่ออ่านตอนที่ 3) ได้ไหมคะ ที่แย่งขนมเพื่อนแล้วโดนพ่อแม่ตี พฤติกรรมชอบแย่งขนมจากเพื่อนและน้องนั้นมีที่มาที่ไป บีมีความรู้สึกน้อยใจพ่อแม่ คิดว่าพ่อแม่มองตนเป็นเด็กไม่ดี โกรธที่พ่อแม่เอาแต่ต่อว่าเรื่องนี้ ไม่เข้าใจว่าตนเองก็อยากดีขึ้นเหมือนกัน แต่เนื่องจากพ่อแม่ไม่เห็นโลกภายในของบี ติดอยู่ที่โลกภายในของตนเองมากว่า ในสมองคิดว่า ลูกคนนี้ดื้อและขี้หวง ภาพที่เห็นตอกย้ำว่า "ลูกสร้างปัญหาอีกแล้ว"

 

 

ความคิดเชิงลบนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลให้เกิดความรู้สึกโกรธ โกรธลูกที่ทำผิดซ้ำซาก โกรธสภาพที่ต้องแก้ปัญหาเดิม ๆ เบื่อหน่ายที่สอนแล้วไม่ดีขึ้น และบางทีอาจลามโกรธคนรอบข้างที่ไม่ช่วยเลี้ยงลูก ความรู้สึกเชิงลบทั้งหลายประเดประดังเข้ามา จนทำให้ตีลูกด้วยความโกรธ ดังนั้นในช่วงเวลาที่โลกภายในของพ่อแม่กำลังปั่นป่วน หากพ่อแม่ไม่สามารถจัดการโลกภายในตนเองได้ ก็จะไม่มีทางเข้าใจและช่วยเหลือลูกที่กำลังปั่นป่วนได้

 

อันที่จริงแล้ว พฤติกรรมของพ่อแม่ก็มาจากความคิดและความรู้สึกหลาย ๆ อย่างจากภายใน ไม่ต่างจากพฤติกรรมของลูก เราทุกคนมีโลกภายในที่ต้องเข้าไปจัดการอย่างเข้าใจ ดังนั้นพ่อแม่จะต้องเข้าใจและจัดการอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อนที่จะช่วยเหลือลูก

 

พ่อแม่ต้องหมั่นสำรวจโลกภายในตนเอง หาที่มาที่ไปของอารมณ์ต่าง ๆ พยายามพูดคุยกับตนเองเพื่อที่จะเข้าใจตนเองและจัดการความรู้สึกตนเองอย่างเหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะต้องศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอค่ะ หมอขอแนะนำว่า หากเราพยายามทำแล้ว ไม่ดีขึ้นควรมองหาผู้ช่วยอื่น ๆ เช่น จิตแพทย์ การให้จิตแพทย์ช่วยอีกแรง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเราพยายามทำให้ดีขึ้น ๆ ไม่ใช่ความผิดปกติหรืออ่อนแอแต่อย่างใดเลยนะคะ

 

 

..."สมองเด็ก ๆ จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน หรือลักษณะนิสัยต่าง ๆ โลกภายในของลูกต้องสงบนิ่งก่อน เมื่อพ่อแม่จัดการตนเองได้ ก็จะอยู่รับมือลูกด้วยความรัก ความเข้าใจได้ เมื่อใจลูกสงบก็จะเกิดสมาธิ พร้อมครุ่นคิดเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นต่อไป"...

 

เราลองจินตนาการ หากพ่อแม่บีสามารถจัดการอารมณ์ตนเองได้ เหตุการณ์ตอนแย่งขนมเพื่อนจะไม่ลงเอยแบบนี้ พ่อแม่คงพาลูกออามาจากบริเวณงานก่อน ลูกจะได้ไม่อายเพื่อน พ่อแม่คงแสดงออกว่าเข้าใจลูกอย่างไร รับรู้ว่าลูกน้อยใจและโกรธอะไรบ้าง เมื่อลูกได้รับความรักและเข้าใจจากพ่อแม่ ความรู้สึกน้อยใจ เสียใจ และโกรธก็จะบรรเทาลง

 

ถึงตอนนี้ พ่อแม่ก็สามารถชวนลูกคิดแก้ปัญหาเรื่องขนมเค้ก เมื่อใจลูกสงบ ไม่ปั่นป่วนไม่ต่อต้าน สมองส่วนคิดก็จะทำงานได้ดี อาจจะลงเอยด้วยการกลับเข้าไปในงานและขอโทษเพื่อน ๆ แสดงความเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี่ วันนั้นบีก็คงกลับบ้านด้วยความรู้สึกเบาโล่ง ไม่ค้างคาในใจว่าตนเองเป็นเด็กไม่ดี ไม่รู้สึกโกรธตนเอง และไม่โกรธพ่อแม่

 

ความพยายามช่วยลูกเพื่อให้เขาเข้าใจตนเองเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าละเลยตนเองนะคะ พ่อแม่ควรช่วยเหลือตนเองให้สามารถเข้าใจและจัดการอารมณ์ตนเองให้ได้ด้วย เพราะถ้าทำกับตัวเองสำเร็จ เราจะช่วยลูกได้ง่ายขึ้นมาก เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

อ่านต่อ ตอนที่ 5 ช่วยลูกเชื่อมโยงโลกภายนอกกับโลกภายในตนเอง

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง