93
สธ. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี แก่ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง

สธ. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี แก่ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง

โพสต์เมื่อวันที่ : May 1, 2024

 

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ในประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่มให้บริการ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งอาจมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยสามารถขอรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

 

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 67 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 29 เมษายน 2567 ว่าได้รับรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 123,739 ราย อัตราป่วย 190.63 ต่อประชากรแสนคนผู้ป่วยเสียชีวิต 5 ราย อัตราป่วยตาย 0.004 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 0-4 ปี เท่ากับ 694.46 ต่อประชากรแสนคน

 

รองลงมาคือ อายุ 5-14 ปี (567.15) และอายุ 15-24 ปี (164.88) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปี 2566 คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเริ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน และจะพบผู้ป่วยสูงสุดในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

 

และกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่ เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้มีวัคซีนป้องกันแนะนำให้ฉีดปีละ 1 ครั้งช่วงก่อนฤดูกาลระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง จะช่วยลดความรุนแรงของการป่วย การนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่

 

 

สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้ดำเนินการร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 4.51 ล้านโดส โดยจะเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 31 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด

 

ทั้งนี้ประชาชนคนไทยทุกสิทธิการรักษาที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยง สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2567 ได้แก่

  1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี) 
  2. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี 
  3. ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 
  4. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 
  5. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 
  6. โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือมี ดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
  7. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ นอกจากนี้ยังเตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ในการทำงานด้วย

 

นายแพทย์ธงชัย กล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลก แนะนำให้มีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์การระบาดทุกปี ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี ในช่วงก่อนฤดูกาลระบาดเพื่อลดความรุนแรงของโรคและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้

 

จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และเพื่อความสะดวก ประชาชนกลุ่มเสี่ยง สามารถโทรนัดหมายกับหน่วยบริการล่วงหน้า เพื่อทราบวันเวลาเข้ารับบริการที่แน่นอน

 

พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เน้นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข