Little Monster Family : เรื่องจินตนาการ

เด็กวัยอนุบาลมีจินตนาการสูงมาก สามารถจินตนาการเป็นนางฟ้า ซูปเปอร์ฮีโร หรือจะเป็นพ่อมดแบบ Smally ก็มีเยอะแยะ ความคิดที่ไม่มีกรอบของเด็ก ๆ จะค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างเป็นความคิดสร้างสรรค์ในวัยผู้ใหญ่แทน

เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกกำลังสนุกสนานกับบทบาทสมมุติควรร่วมเล่นด้วย, ต่อยอดให้จินตนาการลูกกว้างขึ้นและมากขึ้นได้เลย แต่หากเราเล่นไม่เป็น ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงอย่าดุเด็กหรือแซวเด็กว่าทำเรื่องไร้สาระ เพราะเด็กอาจไม่กล้าจินตนาการอีกก็ได้

ดูเรื่องพ่อมด Smally แล้ว หลายคนอาจคิดว่า “จินตนาการกับการโกหก” มันดูใกล้กันจัง Smally ที่ไม่มีเวทมนต์จริง จะต้องหลอกน้อง ๆ ให้หันไปมองทางอื่น เพื่อแอบเหลาดินสอให้แหลมทั้งสองแท่ง เมื่อน้อง ๆ หันกลับมา ดินสอก็มีไส้แหลมเรียบร้อยแล้ว 

Smally โกหกน้อง ๆ หรือเปล่า ?

หมออยากชวนคิดแบบนี้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่คงเคยดูมายากล ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขากำลังหลอกสายตาเราอยู่ แต่เราก็ชอบดูเพราะมันสนุกและตื่นเต้น ใช่ไหมคะ ใช้หลักเดียวกันในการคิดเรื่องนี้ค่ะ ถ้าลูกเล่นสมมุติแล้วมีการพูดไม่จริง แต่ลูกทำเพราะจินตนาการ, เพื่อนทุกคนก็สนุกด้วย เราจะไม่เรียกว่าลูกโกหกนะคะ

เห็นไหมคะ จินตนาการของ Smally ถูกต่อยอดด้วย ! เมื่อเพื่อน ๆ นำขวดพลาสติกและกระป๋องน้ำใส่ในตู้รีไซเคิล แล้วเหรียญที่นำไปซื้อของได้ก็ไหลออกมา พ่อมด Smally จึงคิดไอเดียต่อได้ เขานำขวดพลาสติก,กระป๋องน้ำจากที่บ้านไปใส่ตู้รีไซเคิลบ้าง จินตนาการที่อยากเสกดินสอให้น้อง ๆ เริ่มกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว ! เมื่อเพื่อน ๆ รู้ว่า Smally กำลังทำอะไรอยู่ ก็ตื่นเต้นขอร่วมเล่นด้วย ทุก ๆ คนนำเหรียญที่ได้จากตู้รีไซเคิลมารวมกัน แล้วส่งเสียงพร้อมเพรียงกันว่า...

...“รวมพลังเวทมนต์ !”...

ว้าวสนุกจัง น้อง ๆ รอพ่อมด Smally เสกดินสอแท่งใหม่ อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ และในที่สุด เวทมนต์ก็ทำงานได้จริง ! ดินสอแท่งใหม่มาแล้ว

...“เด็ก ๆ รู้ไหมคะว่าดินสอแท่งใหม่มาจากไหน”…

ใช่แล้วค่ะ Smally ไม่ได้มีเวทมนต์เสกของได้จริง เขานำเหรียญทั้งหมดไปแลกเป็นดินสอแท่งใหม่ให้น้อง ๆ นั่นเอง

...“แล้วคิดว่าน้อง ๆ ที่รอพ่อมด Smally อยู่ตรงตู้รีไซเคิล จะรู้ไหมคะว่า Smally ไม่มีเวทมนตร์ “... 

พวกเขาไม่รู้เลยค่ะ น้อง ๆ สนุกกับพ่อมด Smally มากจนไม่ได้สนใจว่าดินสอมาจากไหน จินตนาการของพี่ Smally ทำให้น้อง ๆ ตื่นเต้น แถมยังได้ดินสอแท่งใหม่กลับบ้านด้วย สำหรับน้อง ๆ แล้ว พี่ Smally เป็นพี่ที่ใจดี สนุกสนาน ร่าเริง น้อง ๆ อยากเล่นด้วยทุกวันเลย

แยก “เรื่องจินตนาการ” ของเด็กออกจาก “เรื่องโกหก”

หากเราพบลูกวัยอนุบาลเล่าเรื่องเป็นตุเป็นตะทั้ง ๆ ที่ไม่มีเรื่องจริง ก่อนที่จะดุลูกว่าพูดโกหก ขอให้ใจเย็น ๆ ลองถามลูกก่อนนะคะว่า ...“ลูกกำลังจิตนาการอยู่ใช่ไหม”... ถ้าใช่คุณแม่ก็ควรบอกตัวเองว่า ลูกกำลังสนุกกับโลกจินตนาการ, ไม่ได้โกหก ถ้าเป็นไปได้ ก็ร่วมเล่นกับลูกไปเลย จะช่วยให้จินตนาการลูกต่อยอด จนอาจทำประโยชน์ได้จริงแบบ Smally

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าลูกพูดเรื่องจริงปนกับเรื่องสมมติบ่อย ๆ จน “เริ่มแยกยาก” แล้วว่าส่วนไหนจริงกันแน่ ถึงตอนนี้ พ่อแม่ควรสอนลูกให้รู้จักแยกแยะแล้วค่ะ บอกลูกว่า “เรื่องที่เล่าส่วนนี้คือจินตนาการ ส่วนตรงนี้คือเรื่องจริงค่ะ” เมื่อลูกเข้าใจและรู้จักแยกแยะตั้งแต่แรก ๆ เมื่อถูกถาม ลูกจะได้ตอบถูก เช่น ที่ลูกบอกว่า “ไปเที่ยวกับลุงข้างบ้าน” ตรงนี้คือจินตนาการหรือเรื่องจริงคะ ลูกจะตอบได้ถูกว่าจินตนาการ พ่อแม่จะได้คลายกังวล

บางทีลูกก็ใช้จินตนาการปกปิดความผิด เช่น “มีแมวกระโดดมากินขนมไปค่ะ” พ่อแม่ก็ใช้วิธีถามแบบเดิมนะคะ ที่ลูกเล่ามาเรื่องจริงหรือจินตนาการ เด็กที่รู้จักแยกแยะแต่แรก จะสามารถตอบได้ แต่จะกล้าบอกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับท่าทีของพ่อแม่ พ่อแม่จึงไม่ควรโมโหลูกไปก่อน ให้ใช้วิธีถามแบบที่หมอสอน แล้วบอกลูกว่าจะไม่โกรธ ขอให้บอกความจริง ลูกถึงจะกล้าบอกค่ะ แล้วเราค่อยสอนลูกว่า อยากให้ใช้จินตนาการกับเรื่องสนุก ๆ เท่านั้น