ทำไมลูกไม่อยากเป็นเพื่อนกับพ่อแม่บนออนไลน์

..."ลูกบล็อกแม่บนโลกออนไลน์"...

..."ลูกไม่ยอมรับเป็นเพื่อนพ่อแม่ในโซเชี่ยลมีเดีย"...

..."ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกไม่อยากให้แม่ไปคอมเม้นท์โพสต์ของลูก"...

คุณเป็นพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ช่วงวัยรุ่นแล้วเคยเจอสถานการณ์แบบนี้หรือไม่ ? ถ้าเคยแล้วคุณรู้สึกอย่างไร เสียใจ ผิดหวัง ไม่เข้าใจ โกรธลูก หรือเข้าใจลูก ?

ความจริงเป็นเรื่องปกติที่ลูกวัยรุ่นจะรู้สึกไม่อยากให้พ่อแม่ไปวุ่นวายกับเขาเหมือนเมื่อเขายังเล็กอยู่ ในขณะที่คนเป็นพ่อแม่กลับยังมองลูกประหนึ่งเหมือนลูกยังเล็กอยู่เสมอ จะคอยห่วงใย เป็นห่วงไปเสียทุก

เรื่องเหมือนเดิม จึงเริ่มทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างพ่อแม่ลูก 

ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องของพ่อแม่ผู้ปกครองยุคนี้ที่ต้องรู้ให้เท่าทัน และเข้าใจ “วิถี” ของลูกในเรื่องเพื่อนของลูกด้วย เพราะเขาเติบโตมาในยุคดิจิทัลและเพื่อนใหม่ทางโลกออนไลน์ของพวกเขา ก็ดูเหมือนกำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามวิถีชีวิตที่ใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องมือสื่อสารทางเทคโนโลยี เพราะเด็กบางคนอยู่บ้านคนเดียวทั้งวัน แต่ก็สามารถพูดคุยกับเพื่อนตลอดเวลา

พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กยุคนี้ที่คนเป็นพ่อแม่ต้องทำความเข้าใจ และยอมรับว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว โลกที่ลูกของเราต้องเติบโตขึ้นไปในอนาคต เป็นโลกที่พ่อแม่ต้องเปิดใจ และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลูก เพื่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีต่อกันในครอบครัว

ถ้าคุณอยากเป็นเพื่อนกับลูกบนโลกออนไลน์ ก็ต้องลองตรวจสอบตัวเองว่าคุณเป็นพ่อแม่ที่ชอบไปจุ้นจ้านกับลูกด้วยหรือไม่ เพราะมีข้อคิดด้วยว่าถ้าคุณอยากเป็นเพื่อนกับลูกบนโลกออนไลน์อย่าทำพฤติกรรม ดังนี้

✚ อย่าแสดงตน ✚

เด็กวัยรุ่นมีลักษณะที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว โดยเฉพาะลูกวัยรุ่นที่ไม่อยากให้พ่อแม่ตามติดไปส่องหรือคอมเม้นท์เขาบนโลกออนไลน์ ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับลูกบนโลกออนไลน์ ก็หักห้ามใจให้ได้ ดูความเป็นไปอย่างเดียวก็ได้ ยิ่งถ้าพ่อแม่พยายามแสดงตนมากเท่าไหร่ เขาอาจจะรู้สึกอึดอัด หรืออาจอายเพื่อน สุดท้ายเขาอาจจะบล็อกพ่อแม่ก็ได้

✚ ไม่ถูกใจแต่ควรเข้าใจ ✚

เวลาลูกอยู่บนโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่เขาจะสื่อสารกับกลุ่มเพื่อนหรือคนที่เขาสื่อสารด้วย อาจใช้ภาษาของเขา ที่ไม่เหมือนภาษาที่เขาสื่อสารกับคนในครอบครัว ก็ขอให้พ่อแม่อย่าได้ตกใจ หรือคิดว่าลูกเราเปลี่ยนไป แต่ควรทำความเข้าใจว่าโลกของเขาเวลาอยู่กับเพื่อนอาจมีลักษณะและรูปแบบเฉพาะของเขา ลองคิดถึงตัวเองสมัยวัยรุ่น เราก็มีภาษาเฉพาะของคนรุ่นเดียวกัน หรือภาษาเฉพาะกลุ่มก็ได้ 

✚ ชอบเอาไปเม้าท์ต่อ ✚

พ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่ชอบเม้าท์มอยเรื่องลูก เห็นลูกโพสต์อะไรก็มักจะไปขยายความต่อ หรือพูดคุย หรือบอกเล่า หรืออธิบาย ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม ลูกจะไม่ชอบพฤติกรรมเหล่านี้ ยิ่งเมื่อลูกต้องไปพบเจอคนที่พ่อแม่เคยเม้าท์เรื่องของเขา เด็กบางคนก็อาจถึงขั้นโกรธพ่อแม่อีกต่างหาก 

✚ ขี้บ่นหรือจุกจิก ✚

ประเภทไม่ว่าลูกโพสต์อะไร พ่อแม่เอาแต่ต่อว่าและบอกว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ลูกไม่อยากเป็นเพื่อนกับพ่อแม่บนโลกออนไลน์ 

ยังมีได้อีกหลายข้อ ลองย้อนคิดดูแล้วเติมเองได้เลย คืออะไรก็ตามที่เหมือนไม่ไว้วางใจลูก ไม่เชื่อใจลูก หรือพูดจาย้ำคิดย้ำทำ เข้าข่ายทั้งนั้น การเฝ้ามองลูกอยู่ห่าง ๆ แต่เก็บรายละเอียด ดูภาพรวม เมื่อจำเป็นต้องแนะนำก็ทำอย่างมีศิลปะ น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด