13250
10 วิธีลดความเครียด เมื่อเลี้ยงลูกแล้วรู้สึกเหนื่อย

10 วิธีลดความเครียด เมื่อเลี้ยงลูกแล้วรู้สึกเหนื่อย

โพสต์เมื่อวันที่ : September 30, 2020

การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้ว คนไม่เคยเลี้ยงก็จะคิดว่ามันจะไปยากอะไร ก็แค่เด็ก แต่จริง ๆ แล้วการเลี้ยงเด็กคนนึงให้เติบโตนี่แหละค่ะ งานหิน คาดเดาไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้ สื่อสารกันไม่เข้าใจ ร้องไห้ไม่ใช่แค่หิว และไม่ใช่ทุกทฤษฎีจะเหมาะกับลูกเรา

 

ความเครียดก็มีเรื่อย ๆ คุณภาพชีวิตย่อมแลกมาด้วยความเหนื่อย ดูดพลังของแม่มากเกินว่าที่ใครจะคาดคิด งานนอกบ้านที่ว่าเครียด บอกว่าจิ๊บ ๆ เมื่อเทียบกับการใช้ศิลปะทุกแขนงเพื่อเลี้ยงเด็ก 

 

...“เลี้ยงเด็ก เลี้ยงให้โตใครก็เลี้ยงได้ แต่เลี้ยงให้ดีแบบมีคุณภาพนี่สิต้องแลก กว่าจะโตแบบแข็งทางกายและจิตใจของเด็กคนนึง มันไม่ง่ายเลย”...

 

การเดินทางมาถึงจุดนึ่ง เป็นกราฟยอดสูงที่เรามีสมาชิกใหม่ สู่กราฟยอดตกที่เราเหนื่อย เชื่อว่าหลายบ้านคงเคยเจอภาวะเครียดที่เกิดจากการเลี้ยงลูกกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เราสามารถลดสิ่งเหล่านั้นได้ ด้วยวิธีคิดของเราเอง บางทีที่เราเจอกับปัญหาคนเดียวขาดมุมมอง เราอาจต้องการแนวคิดอื่น ๆ อาศัยพลังงานดี ๆ ให้เราดำเนินบทบาทความเป็นแม่ต่อได้ได้อย่างราบรื่น 

10 วิธีลดความเครียด

 

❤︎ 1. บอกตัวเองเสมอ “ฉันเพิ่งเป็นแม่ได้ไม่นาน ความเป็นแม่ของฉันเท่าอายุของลูกเอง” ❤︎

ใช่ค่ะ… ความเป็นแม่ของเราเริ่มต้นขึ้นเท่าอายุของลูก เรื่องบางเรื่องบางครั้งที่พลาดเราเรียนรู้และจดจำมันในรูปแบบของประสบการณ์ ถ้าเรารู้ว่าเราพยายามศึกษาหาข้อมูลอย่างเต็มที่ในแบบของเรา แล้วผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามหวัง ลองคิดแบบให้โอกาส ให้อภัยตัวเองบ้างนะคะ 

❤︎ 2. “หาเวลาพัก” ของตัวแม่ให้เจอ เพราะเวลาคือตัวช่วยสำคัญ ❤︎

เรื่องเวลา คนส่วนใหญ่ก็จะถาม ..."โอ้ย…จะเอาเวลาจากไหนเลี้ยงลูกก็หมดวันแล้ว"... ลองเปิดใจกันดูนะคะ มีเวลามากน้อยแต่เราหาดีดีเราจะแบ่งออกมาได้จริง คือเวลาที่จะลดความเครียดได้อย่างดี

 

ถ้าทุกวัน แม่คนไหนไม่เคยมีเวลาเป็นของตัวเองเลย ไม่เคยอยากพักซักหน่อย ก็บอกเลยว่าไม่ว่าทางใดทางหนึ่งลึก ๆ ก็จะมีความเครียดสะสม เพราะมนุษย์ทุกคนต้องการการพักผ่อน สิ่งง่าย ๆ ที่ผู้หญิงทุกคนทราบดีว่าทำอะไรแล้วสบายใจ 

✿ ช้อปปิ้ง อย่างไปคิดไกลไป เพียงซื้อออนไลน์ หรือจะเดินห้าง ร้านสะดวกซื้อซื้อขนมมานั่งกินตอนลูกหลับ แลกแต้ม ใช้ส่วนลดก็สุขใจแล้ว 

✿ ร้านเสริมสวย ไม่แปลกหรอกตั้งแต่มีลูกที่เราจะห่างหายจากวงการ สระ ไดร์ หรืออะไรก็ตาม วันไหนโอกาสดี ฟ้าฝนเป็นใจ ลองแวะไปนะคะฝากลูกไว้ซักชั่วโมง เหมือนได้ชาร์จพลังรับโอโซนจากยอดเขากันเลยทีเดียว 

✿ โลกออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดียใช้ให้เป็นประโยชน์มีมากมายหากลุ่มสังคมแม่ที่เข้าใจซึ่งกันและกัน และรับรู้ปัญหาช่วยให้เราไม่ทุกข์คิดว่าเราเป็นคนเศร้า ๆ คนเดียว แล้วปัญหาเราจะเบามองมุมบวกเพิ่มขึ้น เอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มที่สร้างสรรค์

 

❤︎ 3. เที่ยวบ้างก็ได้ ❤︎

อย่าขีดเส้นตัวเองว่ามีลูกแล้วลำบากต้องอยู่แต่บ้าน สถานที่เหมาะสมเด็กไปได้ เที่ยวแบบสบายใจยังมีอีกหลายที่จะเดินสวนสาธารณะดูธรรมชาติให้สบายใจไม่เสียเงิน หรือจะทะเล ภูเขา เดินห้าง เดินตลาดใกล้ ๆ ลองพาลูกและพาตัวเองออกไปเที่ยวกันดูบ้างนะคะไม่ยากอยากที่คิดเตรียมกระเป๋าของใช้รถเข็นซักคัน พากันไปเปิดหูเปิดตาเปลี่ยนบรรยากาศลดความเครียดไปได้เยอะเลย

❤︎ 4. ปล่อยลูกบ้าง ❤︎

เราไม่ต้องตัวติดกับลูกตลอดเวลา ปล่อยให้เค้าได้อยู่ได้เล่นบ้าง สำคัญต้องที่เราต้องจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยต่อลูกมากที่สุด เช่น เล่นในคอกนิ่ม ๆ ปิดปลั๊กไฟ ติดนวมกันกระแทก มีพื้นที่อิสระของลูกได้เล่นแบบไม่ต้องจับตัวเค้าตลอด ยังอยู่ในสายตาคุณแม่จะทำงานบ้าง ก็พอละมือได้ แต่ไม่ใช่การปล่อยแบบละเลย

 

❤︎ 5. ลุกขึ้นแต่งตัว ดูแลตัวเอง อย่าโทรมจนเป็นคนละคน ❤︎

ว๊อทททท จะเอาเวลาที่ไหนแต่ง ลบคำนี้ไปเลยถ้าอยากเปลี่ยนแปลงเราทำได้ พออะไร ๆ ลงตัวเอง 3 นาทีก็สวยได้ค่ะ อย่าอยู่บ้านด้วยความหดหู่ เดินผ่านกระจกก็ตกใจตัวเองสภาพโทรม ๆ เห็นตัวเองก็ยังเซ็ง นี่ยังไม่รวมสามี เค้าก็คงคิดถึงผู้หญิงที่สดใสคนร่างเดิมของเราอยู่นะ หยิบเมคอัพ มาปัดแก้ม ทาปากเบา ทำผมสวยให้กระชุ่มกระชวยกันนะคะ คงไม่มีใครเถียงว่าถ้าส่องกระจกแล้วเห็นตัวเองสดใสเราก็อมยิ้มมีความสุขได้ เลี้ยงลูกก็แต่งตัวสวยได้จ้าอย่าได้เครียด

❤︎ 6. คุยกับเพื่อนสนิท ❤︎

เพื่อนสนิท คือวัตถุประหลาดมีพลังงานบางอย่าง และหวังดีกับเราเสมอ รู้ทุกเรื่องจนเลิกคบกันไม่ได้เพราะความลับจะเปิดเผย เพื่อนคนนี้นี่แหละ คนที่เราสนิท วันไหนหนักจนไม่ไหวโทรหาเพื่อนบ้างก็ได้ แล้วเราจะได้คำตอบจากเพื่อนสนิทที่พูดตรง ๆ กับเราทั้งเรื่องสีขาวและสีดำ ดีไม่ดีคำปรึกษาจะช่วยให้เราหาทางออกได้ดีขึ้นไม่เกี่ยวว่าเพื่อนคนนั้นจะมีลูกเหมือนกับเราไหม แต่สำคัญตรงที่ว่าเพื่อนสนิทรู้จักคุณดีที่สุด

❤︎ 7. เลิกเปรียบเทียบชีวิตเรากับชีวิตคนอื่น ❤︎

ดูโลกออนไลน์เป็นเรื่องวิถีชีวิตของแต่ละคน แต่เราไม่นำมาเทียบกับชีวิตเรา เห็นว่าลูกคนอื่นทำได้ ทำไมเราเลี้ยงลูกยังไงทำไมไม่ได้ซักที พาให้เราเครียด เปลี่ยนวิธีคิดดีกว่าค่ะ เพราะแต่ละบ้านมีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ต่างกัน เราคงไม่เหมือนกันไปทั้งหมดแตกต่างไม่ได้แปลว่าผิด และทุกข้อมูลทางโซเชี่ยล แม่ ๆ ทุกคนก็ไม่มีใครเพอร์เฟ็คย่อมเคยเจอปัญหาด้วยกันทั้งนั้น

 

❤︎ 8. ภูมิใจในตัวเอง ชื่นชมตัวเอง ❤︎

การเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมให้กำลังใจและเชื่อมั่น ขอบคุณและมองเห็นข้อดีของตัวเองด้วยนะคะ แต่ละวันที่ผ่านไปทั้งดูแลลูก ดูแลบ้าน ดูแลสามี คุณแม่สามารถทำทุกอย่างนี้ได้ด้วยตัวเองก็ไม่ใช่ธรรมดาแล้วค่ะ ทุกวันก่อนนอนหลับตา ทบทวนภาระกิจทั้งหมดจะยากง่ายก็ทำผ่านมาแล้วจนหมดวัน เชื่อเถอะตัวเราก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ

❤︎ 9. ช่างมันบ้างก็ได้ ❤︎

อย่าเก็บทุกเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ความยืดหยุ่นจะทำให้เรารับมือกับปัญหาได้ดีมากขึ้น ทำให้เรารับแรงกดดันได้อย่างนุ่มนวล บางเรื่องถ้าคิดแล้วปรับได้เปลี่ยนไหวลองช่างมันดูบ้างแล้วชีวิตจะง่ายขึ้น

 

❤︎ 10. ร้องไห้ได้ ไม่ได้แปลว่าแพ้ แค่เพียงทำจบแล้วเริ่มต้นใหม่ ❤︎

ถ้ามันหนักเกินไป เราแค่ต้องการระบาย ลองให้โอกาสตัวเองได้ร้องไห้ซักที แล้วสัญญากับตัวเองไปเลยทำให้จบทั้งนี้แล้วพรุ่งนี้เราเริ่มใหม่ ชีวิตเราสั้นเกินกว่าจะให้เวลาทั้งชีวิตเครียดไปตลอดในทุกวัน ล้มแล้วลุกใหม่เดินต่อมองลูกให้เป็นพลังของเราเข้าไว้นะคะ

 

โอกาสครั้งนึงในชีวิตที่ได้เป็นแม่ สอนให้เรารับรู้เรื่องราวอีกมากมายถ้าไม่เป็นแม่เราคงไม่มีโอกาสเข้าใจมันจริง ๆ หลายเรื่องดูยิ่งใหญ่ในตอนนั้น แต่พอให้เวลาผ่านไปแล้วเรื่องใหญ่ในวันนั้นอาจจะทำให้เราย้อนคิดแล้วหัวเราะขำ ๆ กับตัวเองก็ได้ ทุกปัญหา ทุกความเครียดมีทางออกเสมอค่ะ จงให้กำลังใจตัวเองในทุกวัน ลูกจะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่เราจะจดจำไปตลอดชีวิต คุ้มค่าแม้เหนื่อยแต่เราก็จะได้รับความสุขแบบที่หาที่ไหนไม่ได้อย่างแน่นอน

 

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง