"โยเกิร์ต" ยอดอาหารมหัศจรรย์

มนุษย์พ่อขอแอบ แว้บมาเป็นพ่อสายกินสักบทความนะครับ เนื่องจากเห็นว่า เรื่องเล็ก ๆ อย่างเรื่องของกินของมนุษย์ลูกก็สำคัญไม่ใช่น้อยเลย และพอดีเจอของที่อร่อยถูกปากลูก แถมมีประโยชน์เยอะมาก ๆ เลยต้องรีบบอกต่อกันครับ

เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าลูกชายของผมเคยป่วยเป็นไวรัส Rota มีอาการท้องเสียอึอึ๊เหลว คุณหมอได้สั่งโพรไบโอติกส์ชนิดละลายน้ำมาให้ทาน เพราะยังไม่แน่ใจว่าท้องเสียจากอาหารอะไร เลยอยากให้เลี่ยงโปรตีนจากนมไว้ก่อน ซึ่งคุณหมอแนะนำว่า ถ้าหายแล้วพยายามให้กินโยเกิร์ตทุกวัน แทนโพรไบโอติกส์ชนิดละลายน้ำจะประหยัดกว่า และยังมีสารอาหารมากกว่าอีกด้วย

ผมจึงอยากบอกต่อครับว่า ถ้ามนุษย์ลูกมีอายุ 1 ปีขึ้นไปแล้ว ระบบย่อยอาหารมีความพร้อม คุณแม่คุณพ่อน่าจะเริ่มให้ลูกลองทานโยเกิร์ตดูนะครับ จะผสมกับผลไม้ทานเป็นทั้งของว่าง หรือใส่ธัญญพืชก็สามารถทานเป็นอาหารมื้อหลักได้เช่นกัน นอกจากจะอร่อย และได้ประโยชน์เหมือนนม มีแคลเซียมสูงแล้ว

ในโยเกิร์ตยังมีสิ่งที่พิเศษสุด ๆ อยู่อีกด้วย คือ มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสที่ดี ช่วยดูแลลำไส้และระบบขับถ่ายให้สมดุล ช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องเสียได้ด้วยนะ (ข้อนี้หากลูกท้องเสีย ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีมากครับ โยเกิร์ตก็คือนม คุณหมอบางท่านจะสั่งโพรไบโอติกส์ชนิดละลายน้ำมาให้แทนครับ) แถมจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสและโปรตีนในนมไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และที่เจ๋งสุด ๆ คือ โยเกิร์ตช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มนุษย์ลูกจะแข็งแรง ไม่ป่วยง่ายครับ

ควรให้มนุษย์ลูกเริ่มทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ปราศจากน้ำตาลจะดีที่สุด แต่หากรสชาติเปรี้ยวไป คุณพ่อคุณแม่อาจจะใส่ผลไม้สดเพิ่มให้เองจะดีกว่าให้ทานโยเกิร์ตที่ผสมแยมหรือผลไม้มาแล้ว ซึ่งจะมีรสหวาน อาจทำให้ลูกติดหวานและฟันผุได้ครับ ที่สำคัญก่อนซื้อโยเกิร์ตควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ รวมถึงตรวจสอบวันหมดอายุอย่างละเอียดด้วยนะครับ

ก่อนจะจบเรื่องโยเกิร์ต ผมขอแอบกระซิบเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยครับว่า ..."เจ้าลูกชายผมชอบทานโยเกิร์ตกับอะโวคาโดมาก ๆ ครับ"... (อะโวคาโดมีรสค่อนข้างจืด จึงสามารถช่วยลดความเปรี้ยวของโยเกิร์ตได้) หากเด็ก ๆ สามารถทานอะโวคาโดได้ สูตรนี้ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะอะโวคาโดมีไขมันที่ดี น้ำตาลน้อยและไฟเบอร์สูง พร้อมทั้งสารอาหารอื่น ๆ อีกเพียบที่ดีกับเด็กมาก ๆ โดยเฉพาะมีโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และกรดโอเลอิก (Oleic acid) ซึ่งมีผลดีต่อระบบประสาทและสมองของลูกโดยตรง แถมถ้าเด็กคนไหนต้องการเพิ่มน้ำหนักตัวให้ได้ตามเกณฑ์ล่ะก็ เจ้าอะโวคาโดนี่แหละครับ ตอบโจทย์สุด ๆ ครับ