118
ท่องเที่ยวประตูถัดไป

ท่องเที่ยวประตูถัดไป

โพสต์เมื่อวันที่ : September 30, 2022

ก่อนจะเข้าใจลูกพ่อแม่ต้องหมั่นคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนถ้าเราอยู่กับที่เดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา เราจะไม่มีวันทราบได้เลยว่าลูกชอบหรือมีพรสวรรค์ด้านไหนกันแน่

 

ผมจึงเลือกการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ เรียนรู้โลกกว้างไปด้วยกันจนกว่าจะค้นพบประตูวิเศษของลูก

 

เค็น โมะงิ นักวิจัยด้านสมองชาวญี่ปุ่น ค้นพบว่าการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกคือ คือ เล่นของเล่นที่มีเสียง ฟังเพลงที่ผ่อนคลาย อ่านหนังสือภาพให้ฟัง เล่นของเล่นฝึกพัฒนาการ วางไม้ประดับไว้ในบ้าน เป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดในการพัฒนา “ความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก”

“ความอยากรู้อยากเห็น” เป็นความสามารถอีกด้านของการรับความรู้สึก การลองทำเรื่องต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับพัฒนาความสามารถในการรับความรู้สึก จะทำให้เด็กสนใจสิ่งรอบข้าง ยิ่งไปกว่านั้นวงจรของสมองที่รับรู้สัมผัสทั้ง 5 ยังพัฒนาจนเกือบสมบูรณ์ภายในอายุ 5 ขวบด้วย แต่เราไม่ควรกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็กโดยใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเพียงอย่างเดียว

 

สิ่งสำคัญคือการให้เด็กได้ส่งเสริมประสบการณ์ของความประทับใจที่แท้จริง คือ สัมผัส เรียนรู้ แตะต้อง ฟังเสียง มองเห็น ด้วยสิ่งของนั้นจริง ๆ ผมเลยเลือกที่จะค้นหาตัวตนของลูกโดยการพาลูกเที่ยวไปในแต่ละสถานที่ที่แตกต่างกัน

 

 

วันนี้อาจพาไปห้างหรูหราใจกลางเมืองให้ลูกได้สัมผัสถึงความแตกต่าง สถานที่ที่มีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน บรรยากาศให้ห้องแอร์ที่ไม่ต่างอะไรกับห้องนอนที่บ้าน มีเสียงดังโหวกเหวกโวยวายเป็นระยะ มองเห็นต้นไม้ปลอมที่ประดับประดาอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของห้าง กับมือที่ไม่เป็นอิสระเพราะถูกพ่อแม่คอยจับไว้อยู่ตลอดเวลา ผมสังเกตเห็นลูกดูหงุดหงิดกับสถานการณ์แบบนี้มาก จะวิ่งเล่นซุกซนก็ไม่ได้ ไม่มีแสงแดดให้ต้องหลบมีเพียงแค่แสงไฟนีออน

 

เมื่อลูกแสดงอาการที่ไม่ค่อยถูกใจกับชีวิตแบบนี้สักเท่าไหร่ ผมจึงเปลี่ยนที่เที่ยวลองไปที่สบายบ้างลำบากบ้าง เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบตัวตนของเขา และแล้วก็เดินทางมาถึงประตูบานสุดท้าย หลังจากค้นหามาหลายที่ ประตูบานนี้มีชื่อว่า ประตูสู่ธรรมชาติ

เมื่อเท้าน้อย ๆ ได้แตะบนพื้นดินก็เดินตรงดิ่งไปที่ลำธารทันที ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ามีอะไรอยู่ในน้ำบ้าง เขาได้คอยสอดส่องก้มลงมองพร้อมกับถามผมว่านั่นตัวอะไรที่กำลังว่ายอยู่ตรงนั้น “เรียกว่าปลาครับ” ผมตอบ ประสาทสัมผัสของลูกเริ่มทำงาน นี่แหละคือตัวตน คือ ชีวิตของลูกที่แท้จริง เขาวิ่งไปมาด้วยความตื่นเต้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ได้ยินเสียงแมลงร้องก็เรียกให้ผมฟังด้วย เห็นปลิงกำลังคืบคลานเข้ามาหา เห็นใบไม้โบกสะบัดพริ้วไหวไปตามแรงลม

 

สิ่งที่ลูกเห็นอยู่ตรงหน้าคือภาพที่แท้จริง ลูกได้สัมผัสกิ่งไม้ ได้สัมผัสความแข็งของก้อนหิน เล่นดินที่ร่วนซุย เล่นทรายที่หยาบกระด้าง แทนของเล่นราคาแพงที่ไม่มีความยืดหยุ่นใด ๆ ได้จับใบไม้ที่มีชีวิต ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ที่กำลังให้แสงสว่างอยู่ ลูกน่าจะชอบความลำบากมากกว่าอยู่อย่างสบายมากกว่าแหละ สถานที่นี้คือชีวิตของลูก สถานที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสมองในวัยเด็กให้เติบโตอย่างดีที่สุดในวันข้างหน้า

 

พ่อแม่ครับเรามาช่วยกันเปิดประตูค้นหาตัวตนของลูกกันครับ เปิดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอบานสุดท้าย ประตูนั้นจะเป็นพื้นที่ของลูกให้เขาได้มีพัฒนาการที่เตรียมพร้อมจะเติบโตในอนาคต