665
 กินขนมอย่างไรให้ลูกห่างไกลฟันผุ

กินขนมอย่างไรให้ลูกห่างไกลฟันผุ

โพสต์เมื่อวันที่ : September 30, 2021

ผู้ใหญ่ทุกคนทราบดีว่า ลูกอม ขนมหวาน ไม่ดีต่อฟันของลูก ทำให้ฟันผุได้ง่าย อย่างไรก็ตาม "ขนม" คือของรางวัล คือความสุข คือจิตวิญญาณของความเป็นเด็ก เราไม่จำเป็นต้องห้ามลูกกินขนมเด็ดขาดนะคะ เพียงให้ลูกกินขนมอย่างเหมาะสม ร่วมกับการแปรงฟันให้ลูกอย่างถูกวิธี ก็ช่วยให้เค้ามีฟันน้ำนมที่ดีไม่ผุง่าย ๆ

สิ่งที่พ่อแม่เตรียมได้ตั้งแต่ลูกยังเล็กเพื่อฝึกนิสัยการกินให้ไม่ติดหวาน

 

❖ ช่วงขวบปีแรกของลูก ให้ลูกกินอาหารรสธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาลใด ๆ ทั้งสิ้น

❖ ชลอการให้ลูกได้ลิ้มรสขนมหวาน นานที่สุดเท่าที่ทำได้ (หลัง 2 ขวบยิ่งดี)

❖ ไม่ควรตุนขนมหวาน หรือขนมขบเคี้ยว

❖ ฝึกลูกกินอาหารเป็นมื้อ ไม่กินจุบจิบ

❖ สอนลูกเรื่องขนมหวานต่าง ๆ ที่เสี่ยงฟันผุ ให้กินแต่น้อย กินเสร็จต้องแปรงฟัน

ปรับเปลี่ยนวิธีการกินขนมเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุ

 

✚ รวบการกินขนมให้อยู่มื้อเดียวกับอาหารมื้อหลัก ✚

คือ ให้ลูกกินอาหารมื้อหลักก่อนแล้วค่อยกินขนมตามในมื้อนั้น เพราะเวลาที่เคี้ยวอาหารจะมีการหลั่งของน้ำลายมากขึ้น น้ำลายจะช่วยชะล้างขนมหวานในช่องปาก นอกจากนี้ลูกจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ให้อิ่มท้องก่อนที่จะกินขนมด้วย

 

✚ หลีกเลี่ยงขนมที่เหนียวติดฟัน ✚

เช่น กาละแม คุกกี้ ขนมกรุบกรอบ ผลไม้แห้ง ฯลฯ หลังกินขนมพวกนี้ควรแปรงฟันตาม หรือเคี้ยวผลไม้ที่มีกากใย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล เพื่อขจัดขนมที่ค้างอยู่บนหลุมร่องฟันออกให้หมด

✚ หลีกเลี่ยงขนมที่ต้องอยู่ในช่องปากนาน ๆ ✚

เช่น ลูกอม อมยิ้ม ลูกกวาด ฯลฯ ที่ต้องใช้เวลาอมให้ละลายในปากนานกว่าจะหมด หากเป็นไปได้ให้เลือกแบบที่ไม่ใส่น้ำตาล แต่ใช้สารทดแทนความหวานอื่น ๆ แทน เช่น xylitol

 

✚ กินจุบกินจิบเสี่ยงฟันผุสูง ✚

ควรกินให้หมดเป็นมื้อ ๆ อย่ากินไปเรื่อย ๆ กินทั้งวัน รวมถึงเครื่องดื่มรสหวานต่าง ๆ ด้วย เช่น น้ำผลไม้ที่เติมน้ำตาล น้ำหวาน นมหวาน นมเปรี้ยว ควรดื่มให้หมดในครั้งเดียว อย่างมากก็อย่าเกิน 10 นาทีเลยนะคะ อย่าจิบไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาเป็นครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง อย่างนี้ฟันผุง่ายค่ะ นอกจากนี้การกินขนมทั้งวันก็ทำให้เด็กอิ่ม ไม่อยากกินข้าวอีกด้วย

 

✚ "ชีส" ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ ✚

และช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลาย อาจเลือกกินขนมคู่กับชีส เช่น แครกเกอร์กับชีส กล้วยกับชีส เป็นต้น (ระวังในเด็กที่แพ้นมวัวด้วยนะคะ เพราะชีสมีนมวัวเป็นส่วนประกอบ)

:: ตัวอย่างการกินขนมให้เข้าใจมากขึ้น ::

เด็กหญิงยี่หวาตื่นเช้ามากินเวเฟอร์ช็อคโกแลต ช่วงสาย ๆ กินข้าวเช้า ก่อนเที่ยงกินคุกกี้ มือก็ถือขวดน้ำหวานจิบไปด้วยกว่าจะกินหมดใช้เวลา 1 ชั่วโมง กินขนมเยอะก็เลยไม่หิวข้าว กินข้าวเที่ยงอีกทีตอนบ่าย 2 ตอนเย็นกินเค้กและก็อมลูกอมไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาข้าวเย็น ก่อนนอนกินนมเปรี้ยว
เด็กหญิงส่าหลีตื่นเช้ามากินข้าวเช้า ช่วงสาย ๆ กินเค้กและนมจืด กลางวันกินก๋วยเตี๋ยวตามด้วยไอศครีม ช่วงบ่ายกินขนมจีบ ตอนเย็นกินข้าวเย็นตามด้วยผลไม้

 

พฤติกรรมการกินของยี่หวาเสี่ยงฟันผุมากกว่าส่าหลีมาก ๆ เลยค่ะ มากไปกว่านั้น การกินขนม น้ำหวาน จุบจิบทั้งวัน ทำให้อิ่ม ไม่อยากกินข้าวมื้อหลัก ซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่ทำให้ลูกเติบโตแข็งแรงค่ะ

 

คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องตัดขนมหวานออกจากชีวิตของลูกน้อยอย่างเด็ดขาดหรอกนะคะ (มันเป็นไปไม่ได้หรอก) แต่ให้รู้จักเลือก รู้จักวิธีกิน สำคัญที่สุดให้แปรงฟันทุกครั้งหลังกินอาหารหวาน หากไม่สะดวกอย่างน้อยก็ดื่มน้ำเปล่าตาม เมื่อกลับมาถึงบ้านก็รีบแปรงฟันทันที และพาลูกไปพบหมอฟันเป็นประจำ เท่านี้ก็ห่างไกลฟันผุได้เยอะแล้วค่ะ